ประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
} พ.ศ. 2512 กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา ได้ก่อตั้ง ระบบเครือข่าย ARPANET ( Advance Research Project Agency Network) สำหรับการสื่อสารของทหาร และได้เชื่อมต่อกับ มหาวิทยาลัย 4 แห่ง
} พ.ศ. 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (The National Science Foundation ) ของสหรัฐ ได้วางระบบเครือข่ายขึ้นมาอีกระบบหนึ่ง เรียกว่า NSFNet ซึ่งประกอบด้วยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ 5 เครื่องใน 5 รัฐ เชื่อมต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา และค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ และมีการใช้มาตรฐาน TCP/IP เป็นมาตรฐานหลักในการรับส่งข้อมูล
} พ.ศ. 2530 เครือข่าย ARPANET ได้รวมกับ NSFNET และลดบทบาทตัวเองลงมา เปลี่ยนไปใช้บทบาทของ NSFNet แทน และเลิกระบบ ARPANET ในปีพ.ศ. 2534
} พ.ศ. 2534 World Wide Web (WWW) ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยสถาบันวิจัยยุโรป มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศ
} 4 – 5 ปี ต่อมา มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 30 ล้านคน บริษัทต่าง ๆ เห็นโอกาสทางธุรกิจจึงได้สร้างเว็บไซต์ของตนขึ้นเพื่อเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของตน และ มีบริการจากอินเทอร์เน็ตมากมาย ที่ได้รับความนิยม
ในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน
ประวัติ Internet ในประเทศไทย
} พ.ศ. 2529 อาจารย์กาญจนา กาญจนสุต จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT) ร่วมกับอาจารย์โทโมโนริ คิมูระ ร่วมสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำการรับส่งอีเมล์กับมหาวิทยาลัยโตเกียว และมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
} พ.ศ. 2530 มีการเชื่อมต่อจากมหาวิทยาลัย ในประเทศไทยไปยังมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย โดยใช้สายโทรศัพท์
} พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เชื่อมต่อเครือข่ายไทยสารเข้ากับมหาวิทยาลัยและองค์กรในประเทศ 6 แห่ง
} พ.ศ. 2538 กำเนิด บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์รายแรกของไทย
สถิติผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
Internet
} อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน มาจากคำว่า Inter Connection Network
} อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอล ที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
อินเทอร์เน็ตทำงานอย่างไร
} เป็นการเชื่อมต่อในรูปแบบที่เรียกว่า Client-Server
} Client คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นฝ่ายขอรับบริการ เช่นขอเรียกดู Web Page ขอแฟ้มข้อมูล ต่าง ๆ
} Server คือเครื่องผู้ให้บริการตามที่ client ร้องขอมา เช่น Web Server เป็นเครื่องที่ให้บริการ Web , Mail server สำหรับให้บริการ E - mail
World Wide Web
} World Wide Web : WWW เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต โดยประกอบด้วยเอกสารที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารไว้จำนวนมากที่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ทั่วโลก
} โดยข้อมูลบน WWW อาจอยู่ในรูปแบบของ ข้อความ ภาพ เสียง หรือ มัลติมีเดีย
} เรียกสั้น ๆ ว่า web
} ใช้มาตรฐานการสื่อสาร เอชทีทีพี (HTTP protocol )
} โดยจะแสดงผลผ่าน Web browser
} Web page คือ เอกสารบนเว็บที่สามารถแสดงข้อมูลหรือสารสนเทศที่เป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว โดยเก็บอยู่ในรูปของ ไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าชม Web page แต่ละหน้า โดยใช้ Web Browser เรียก URL (Uniform Resource Locator) ของหน้าเว็บนั้น
} เช่น URL
HTTP://WWW.npru.ac.th/science/index.html
URL (Uniform Resource Locator)
} URL เป็นการระบุตำแหน่งของแฟ้มข้อมูลใน Internet
} ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก มีรูปแบบการเขียนดังนี้
Service://node/path
} Service หมายถึง ชนิดหรือวิธีการที่จะใช้ในการนำแฟ้มนั้นมา
} Node เป็นชื่อของเครื่อง (domain name) ซึ่งมีแฟ้มข้อมูลที่ต้องการเก็บอยู่
} Path เป็นส่วนของชื่อและตำแหน่งของแฟ้มในเครื่องนั้น
} HTTP://WWW.npru.ac.th/science/index.html
มาตรฐานการสื่อสาร TCP/IP
} TCP/IP : Transmission Control Protocol / Internet Protocol เป็นมาตรฐานในการสื่อสาร ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไปยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ แบ่งได้ 2 ส่วนคือ TCP และ IP
} TCP เป็นการเชื่อมต่อในระดับโปรแกรมประยุกต์ โดยการส่งการร้องขอการเชื่อมต่อ และเป็นการเชื่อมต่อแบบสองทาง (full-duplex communication)
} IP เป็นการสื่อสารโดยไม่มีการเชื่อมต่อค้างไว้ โดยเป็นการส่งข้อความที่อยู่ในลักษณะของ Packet ไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทาง
การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์เน็ต
} World Wide Web(WWW)
◦ บริการเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
} Electronic Mail(E-Mail)
◦ บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถส่ง ข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ไปพร้อมกับจดหมายได้
} Chat
◦ บริการสนทนาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยโต้ตอบกันได้โดยทันที
} File Transfer Protocol (FTP)
◦ บริการขนถ่ายแฟ้มข้อมูล ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
} เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อกันทั่วโลกผ่าน สายสัญญาณโทรศัพท์ ใยแก้วนำแสง (fiber optic) สัญญาณดาวเทียม สัญญาณไมโครเวฟ
ISP ( Internet Service Provider) คือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเชื่อมโยงกัน โดยมีทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ เช่น Loxinfo , A-Net , Uninet , True
ลักษณะการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
} การเชื่อมต่อแบบบุคคล
} ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือที่ทำงาน เชื่อมต่อผ่านสารโทรศัพท์ หรือ แบบไร้สาย โดยใช้ Modem โดยเชื่อมต่อกับ ISP ซึ่งจ่ายค่าบริการเป็นชั่วโมง หรือ รายเดือน
} การเชื่อมต่อแบบองค์กร
} องค์กรที่มีเครือข่ายภายในอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่อกับ ISP โดยอาศัยอุปกรณ์เราเตอร์ (router) โดยสามารถเลือกการเชื่อมต่อสัญญาณได้หลายรูปแบบ เช่น สายวงจรเช่า (leased line) , ระบบวงจรไอเอสดีเอ็น (ISDN) ,ระบบดาวเทียม ระบบไมโครเวฟ
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
Hi-speed Internet
Hi-speed Internet
} ADSL (Asymmetic Digital Subsciber Line) เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงโดยสามารถสื่อสารโดยใช้ สายโทรศัพท์ โดยใช้ ADSL Modem
} ข้อดีคือสามารถใช้งานโทรศัพท์พร้อมกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
} ความเร็ว 2048/512 Kbps หมายถึง
} ความเร็วในการ Download 2048 Kbps
} ความเร็วในการ Upload 512 Kbps
ตัวอย่าง Package ของ TT&T
IP Address
} เป็นหมายเลขประจำตัวของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย ประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุดที่คั่นกันด้วยเครื่องหมายจุด(.) เช่น 172.16.254.1
ตัวเลขในแต่ละชุดจะมีขนาด 8 บิต แต่ละชุดจึงมีค่าตัวเลขได้ตั้งแต่ 0 ถึง 255
ตัวเลขในแต่ละชุดจะมีขนาด 8 บิต แต่ละชุดจึงมีค่าตัวเลขได้ตั้งแต่ 0 ถึง 255
Domain Name
} Domain Name คือชื่อที่ใช้ในการอ้างอิงเพื่อไปยัง Website ต่างๆ ที่อยู่บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตชื่อที่ใช้ต้องเป็นชื่อที่ไม่มีใครในโลกใช้เพราะถ้ามีคนใช้ชื่อใดแล้วเราจะไปจดชื่อซ้ำไม่ได้
} เนื่องจาก IP Address อยู่ในรูปของตัวเลขซึ่งยากแก่การจดจำดังนั้นจึงเป็นการสะดวกกว่าที่จะใช้ชื่อหรือกลุ่มของตัวอักษร ซึ่งก็คือ Domain Name ในการอ้างอิงแทน โดยจะอาศัย DNS Server มาช่วยจับคู่ IP Address และ Domain name เข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อมีผู้ต้องการที่จะเรียกดู Website ของท่าน ไม่ว่าจะทราบ IP Address หรือ Domain name เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ผิดพลาด
รหัสที่ใช้แทนใน Domain Name
} . Top Level Domain Name (ต่างประเทศ)
◦ .COM ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และมีบางครั้งนำไปใช้ทำเว็บไซต์ (web site) ประเภทอื่นๆ ด้วย
◦ .NET ใช้ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ค (network) ของคอมพิวเตอร์ หรือเว็บไซต์บริการอินเทอร์เน็ต แต่บางครั้งก็นำไปใช้ด้านอื่นด้วย
◦ .ORG ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ บางครั้งก็มีการจดทะเบียนนำไปใช้กับเว็บไซต์ประเภทอื่นด้วย
} 2. Local Domain Name (ภายในประเทศต่าง ๆ )
Browser
} Browser คือ ซอฟท์แวร์ที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตใช้เพื่อเรียกดูข้อมูลบน WWW หรือ เป็นโปรแกรมสำหรับแสดงเว็บเพจนั่นเอง โดยหน้าเว็บเพจจะถูกเขียนด้วยภาษา HTML และถูกแปลความหมายด้วย Browser
องค์ประกอบของการพัฒนาเว็บไซต์
} Hardware
◦ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ทำหน้าที่ให้บริการ (Server) เครื่องเรียกใช้บริการ(Client) เราเตอร์ โมเด็ม
} Software
◦ HTML editor
◦ Server-side script เช่น PHP , ASP
◦ Client-side script เช่น JavaScript , AJAX
◦ Web server application เช่น Apache , IIS , PWS
◦ ซอฟท์แวร์มัลติมีเดีย
} ระบบการจัดการฐานข้อมูล (Database Management System)
◦ MySQL
◦ MS Access
◦ Oracle
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น